วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ซืนวาน แหล่งท่องเที่ยวอุบล

"ซืนวาน" แหล่งท่องเที่ยวอุบล

"ซืนวาน" แหล่งท่องเที่ยวอุบลที่มีบรรยากาศแบบสมัยย้อนยุค ซึ่งลักษณะโดยทั่วไปของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้คล้ายกับสถานที่ท่องเที่ยว "เพลินวาน" ของภาคกลาง ถือได้ว่าแหล่งท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวย้อนยุคแห่งแรกของภาคอีสานเลยก็ว่าได้ แม้ซืนวานจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวย้อนยุคคล้ายกับเพลินวาน แต่ก็มีบางส่วนที่แตกต่างกันอยู่บ้าง โดยความแตกต่างกันอย่างลงตัวของแหล่งท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้จะเป็นในลักษณะของสไตล์ย้อนยุค ที่ผสมผสานเข้ากับสไตล์สมัยใหม่ของคนอีสาน มองดูแล้วช่างเป็นอะไรที่ลงตัว และน่าค้นหายิ่งนักเมื่อมีโอกาสได้มาสัมผัสยังสถานที่แห่งนี้ ถือได้แหล่งท่องเที่ยวอุบลอย่างซืนวานกำลังเป็นที่นิยม และถูกพูดถึงมากที่สุดในขณะนี้ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในภาคอีสาน สามารถเดินทางมาเยี่ยมชมได้สะดวก ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงภาคกลาง แม้แหล่งท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้จะมีพื้นที่สำหรับเยี่ยมชมไม่กว้างใหญ่เหมือนของเพลินวาน แต่รับรองว่าความสวย และความลงตัวในการตกแต่งสถานที่ ไม่แพ้เพลินวานอย่างแน่นอน

ความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การจัดสถานที่ได้อย่างสวยงามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงว่าสถานที่ท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้สามารถสื่ออารมณ์และความรู้สึกให้ผู้ที่มาเยี่ยมชม สามารถเข้าถึงอารมณ์ของชาวบ้านในยุค 50 ปีที่แล้วได้เป็นอย่างดี ด้วยสถานที่ที่จัดแสดงเป็นโซนให้เยี่ยมชม ในลักษณะต่างๆ กัน ทั้งโรงหนัง ร้านค้า งานวัด ร้านขายของ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งในแต่ละโซนที่จัดแสดงก็จะมีการตกแต่งเพื่อให้ได้บรรยากาศแบบคนในยุคสมัยนั้นๆ อยู่ แหล่งท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบย้อนยุคที่เปิดบริการให้เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่นแหล่งท่องเที่ยวซืนวานจะมีเวลาเปิดปิด ให้สำหรับเข้าชม
   

วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

แหล่งท่องเที่ยวอุบล แก่งสะพือ

"แก่งสะพือ" แหล่งท่องเที่ยวอุบล


หลายคนเมื่อได้ยินคำว่า "แก่ง" อาจจะนึกไม่ออกว่าแก่งคืออะไร แก่งตะนะแหล่งท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้ชาวอุบลต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดีว่า คือสถานที่ท่องเที่ยวที่มีโขดหินอันสวยงามท่ามกลางแม่น้ำธรรมชาติ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เรียกได้ว่าสวยที่สุดในอุบลอีกที่หนึ่ง แหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นโขดหินที่ซ่อนอยู่ในแม่น้ำมูล ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบล เป็นโขดหินที่เรียงรายกันอยู่ใต้ผิวน้ำ ถ้าหากใครที่คิดจะมาเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ในหน้าฝน รับรองว่าท่านจะไม่สามารถมองเห็นโขดหินของแก่งสะพือแห่งนี้ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นแหล่งท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้จึงเหมาะจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวในหน้าแล้งหรือช่วงที่น้ำในแม่น้ำมูลลดลง จึงจะสามารถมองเห็นโขดหินได้ ความสวยงามของแก่งสะพือคือเมื่อเวลาน้ำไหลผ่านโขดหิน จะมีเสียงดังซ่าๆ ตลอดเวลา ทั้งลมเย็นที่โบกพัดผ่าน ช่างเป็นบรรยากาศที่หาจากที่ไหนไม่ได้แล้ว นอกจากที่แก่งสะพืออุบลที่เดียว
         

แหล่งท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้ นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวสามารถ มาพักผ่อนหย่อนใจเพื่อชมความสวยงามจากแก่งสะพือ หรือมาเพื่อเล่นน้ำแล้ว รอบๆ บริเวณที่ห่างออกไปจากตัวแก่ง จะมีร้านค้าสำหรับขายของกิน ของฝาก หรือของที่เป็นงานฝีมือมากมาย คล้ายตลาดนัดบ้านเรา จะต่างก็ตรงที่งานฝีมือส่วนมากจะเป็นงานฝีมือที่เกี่ยวกับแก่งสะพือ คือสามารถซื้อไปฝากเพื่อนได้ ที่สำคัญหากใครที่มีโอกาสได้มาเที่ยวชมยังแก่งสะพือแห่งนี้แล้วไม่ได้ทานเมนูแนะนำอย่าง "หมูหัน" แปลว่าท่านยังมาไม่ถึงแก่งสะพือแหล่งท่องเที่ยวอุบลของจริง

สถานที่ท่องเที่ยวแก่งสะพือในอุบลนี้ นอกจากท่านจะได้พบกับบรรยากาศป่าไม้สีเขียว อากาศที่บริสุทธิ์ และธารน้ำที่สะอาดน่าเล่นแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านที่หากินตามแม่น้ำมูล ซึ่งถือได้ว่าหาชมยากกับบรรยากาศริมน้ำเช่นนี้ แหล่งท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการหาความสุขจากธรรมชาติ และยังสามารถเล่นน้ำคลายร้อนได้อีกด้วย



วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ผาชัน แหล่งท่องเที่ยวอุบล

ผาชันริมโขง แหล่งท่องเที่ยวอุบล

"ผาชัน" เป็นแหล่งท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขง ตัวผาชันเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติในจังหวัดอุบล ซึ่งถ้าดูจากลักษณะทางกายภาพของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ จะพบว่าบริเวณโขดหินมีลักษณะวางเรียงตัวกันเป็นแนวตั้ง มองดูแล้วชันสมชื่อจริงๆ แหล่งท่องเที่ยวผาชันแห่งนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในบริเวณฝั่งของประเทศไทยที่มีลำน้ำโขงเป็นตัวคั่นเขตแดน ระหว่างประเทศไทย และประเทศลาวเอาไว้ ความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้เห็นจะเป็นความลงตัวของธรรมชาติที่ได้สรรสร้างเอาไว้ ทั้งตัวโขดหินเอง ที่ถูกแม่น้ำโขงกัดเซาะจนมีลักษณะเป็นรูปทรงต่างๆ และลักษณะของหินที่ถูกวางเรียงตัวกันได้อย่างสวยงาม อีกทั้งสายน้ำที่อยู่ขนาบข้างของทั้งสองฝั่ง ทำให้เกิดเป็นความลงตัวของธรรมชาติอย่างชัดเจน

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในอุบลอย่าง "ผาชัน" เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าค้นหา และยังมีเสน่ในตัวของมันเอง การจะเที่ยวชมผาชันให้ได้อรรรสความสวยงามตามธรรมชาตินั้น ควรจะนั่งเรือท่องเที่ยวไปตามลำน้ำโขง ซึ่งท่านจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ทั้งจากของฝั่งประเทศไทย และวิวทิวทัศน์จากฝั่งของประเทศลาวอีกด้วย โดยท่าเรือของผาชั้นตรงบริเวณทางเดินจะมีลักษณะเป็นชั้นๆ เหมือนขั้นบันได ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของลำน้ำโขง หากมองลึกลงไปแล้วช่างเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมากจริงๆ ที่ธรรมชาติสามารถสรรสร้างแหล่งท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้ได้อย่างสวยงาม

วิวของแหล่งท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้คือ ฝั่งน้ำตกที่อยู่ริมน้ำโขงของประเทศลาว น้ำตกของแหล่งท่องเที่ยวฝั่งลาวแห่งนี้ช่างสวยงามมาก ทั้งความลงตัวของต้นไม้สีเขียวที่ขึ้นแซมตามโขดหินของสายน้ำ และชั้นของหินที่วางเรียงตัวกันอย่างสวยงาม หากใครที่มีโอกาสมาล่องเรือที่ผาชัน แนะนำให้ลองแวะชมน้ำตกของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้



วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

วัดป่าใหญ่ แหล่งท่องเที่ยวอุบล

รีวิวแหล่งท่องเที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์ในอุบล "วัดป่าใหญ่"

แหล่งท่องเที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์ของเมืองอุบลอย่าง "วัดมหาวนาราม" หรืออีกชื่อที่ชาวเมืองดอกบัวต่างก็เรียกขานกันจนติดปากว่า "วัดป่าใหญ่" วัดป่าใหญ่ถือเป็นวัดอันเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวอุบล เป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่บนถนนสรรพสิทธิ์ จังหวัดอุบลราชธานี

ประวัติความเป็นมาของแหล่งท่องเที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์เมืองอุบลแห่งนี้ เล่าไว้ว่าแต่เดิมเจ้าเมืองอุบลนามว่า "ท้าวผาเมือง" ซึ่งเป็นเจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดอุบล ได้สร้างวัดไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำมูล "วัดหลวง" เพื่อใช้เป็นที่ปฏิบัติกิจทางศาสนาของชาวอุบล ต่อมาเมื่อพระมหาเถระได้เข้ามาจำพรรษายังวัดแห่งนี้ และเห็นสมควรว่าเป็นวัดที่ไม่เหมาะจะปฏิบัติกิจของสงฆ์ จึงได้หาสถานที่จำพรรษาใหม่และก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์ "วัดหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์" เพื่อให้คู่กับวัดหลวงที่ก่อตั้งขึ้น เมื่อหมดยุคของท้าวผาเมือง และท้าวทิดพรหมได้ขึ้นครองเมืองในรุ่นต่อมา ได้ดำเนินการสร้างวัดหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์ต่อจากท้าวผาเมืองจนแล้วเสร็จ และได้ยกฐานะเป็น "วัดป่าหลวงมณีโชติ" ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดมหาวนาราม" ซึ่งยังคงความหมายเดิมคือ ป่าใหญ่ ชาวอุบลจึงได้เรียกกันจนติดปากว่า "วัดป่าใหญ่"

ปูชนียวัตถุของสถานที่ท่องเที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวอุบลแห่งนี้ คือ "พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งเป็นศิลปะแบบลาว และเป็นพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์อันชาวอุบลตราบเท่าปัจจุบัน



วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ผาแต้ม แหล่งท่องเที่ยวอุบล

"ผาแต้ม" แหล่งท่องเที่ยวอุบล

"ผาแต้ม" แหล่งท่องเที่ยวอุบลที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้ก่อนใครในประเทศ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีลักษณะทางกายภาพเป็นหน้าผาสูงที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หากมองจากตัวหน้าผาลงไปด้านล่างซึ่งเป็นฝั่งของประเทศไทย จะพบต้นไม้สีเขียวขึ้นเป็นป่าสีเขียวชอุ่มมากมาย โดยมีสายน้ำของแม่น้ำโขงคั่นกลางระหว่างพรมแดนประเทศไทย และพรมแดนของประเทศลาว หากมองจากตัวผาข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม จะเป็นฝั่งของประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาว ที่สำคัญแหล่งท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้ ยังสามารถมากางเต้นท์นอน เพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใคร

จุดรับลมของแหล่งท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้ ก่อนจะเดินลงไปชมภาพเขียนสีสมัยโบราณของผาแต้มแห่งนี้ บริเวณจุดชมวิวจุดนี้ทั้งเป็นจุดที่ลมพัดแรง และสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของป่าเขียวชอุ่มได้กว้างขวาง และชัดเจน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้มักจะแวะชมจุดชมวิวแห่งนี้ก่อนเดินทางลงไปยังภาพวาดหินโบราณ จะสังเกตุเห็นว่าผาบริเวณนี้มีไม้มากมายถูกวางในลักษณะค้ำหน้าผาเอาไว้ ซึ่งเป็นความเชื่อต่อๆ กันมาว่าการเอาไม้ไปค้ำผาเอาไว้จะช่วยให้ผาไม่ทรุดลงมา

ทางเดินสำหรับลงไปชมภาพเขียนสีสมัยโบราณ สำหรับแหล่งท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้ได้บูรณะจนกลายเป็นทางเดินเท้าที่ดีแล้ว เพื่อป้องกันอันตรายให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมยังสถานที่ท่องเที่ยวอุบลแห่งนี้ จะสังเกตุเห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งมีต้นไม้สีเขียวขึ้นแซมเต็มรายทาง ที่จะเดินลงไปชมภาพเขียนสีโบราณ ภาพเขียนสีโบราณยังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถูกเขียนโดยคนสมัยโบราณ ซึ่งวาดภาพสีลงบนแผ่นหินในลักษณะต่างๆ

วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

น้ำตกสร้อยสวรรค์ แหล่งท่องเที่ยวอุบล

น้ำตกสร้อยสวรรค์ แหล่งท่องเที่ยวอุบล

"น้ำตกสร้อยสวรรค์" แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเมืองอุบลที่สวยงามไม่แพ้น้ำตกอื่นใดในจังหวัดนี้ ทั้งป่าไม้สีเขียวที่ขึ้นแซมตามโขดหินได้อย่างลงตัว น้ำที่ใสสะอาดไม่มีตะกอนดิน ดุจดั่งน้ำที่ถูกกลั่นกรองจากชั้นหินชั้นแล้วชั้นเล่า ภายรอบบริเวณตัวน้ำตกจะเป็นหลุมเป็นแอ่งมากมายหลายขนาด อันเนื่องมาจากการที่แผ่นหินถูกกัดเซาะด้วยน้ำ จนทำให้เป็นแอ่งบริเวณกว้างสามารถนอนแช่น้ำเย็นๆ ได้อย่างสบาย ที่สำคัญนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมยังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้สามารถเดินเล่นบนแผ่นหินของน้ำตกได้โดยไม่ลื่น เนื่องจากเป็นแผ่นหินทราย และน้ำที่ไหลที่ไหลมาตกยังธารน้ำด้านล่างที่นักท่องเที่ยวใช้สำหรับเล่นน้ำกันนั้นมาจากน้ำที่อยู่บนเขาทางด้านบน ที่ไหลต่อๆ กันมาเป็นทอดๆ ที่สำคัญหากนักท่องเที่ยวที่ได้แวะมายลโชมยังน้ำตกแห่งนี้แล้ว มักที่จะติดอกติดใจในความสวยงามของธรรมชาติ และน้ำที่ใสสะอาด จนต้องอาโอกาสกลับมาเที่ยวยังน้ำตกแห่งนี้อีกซักครั้ง

อีกฝั่งของสายน้ำที่ไหลผ่านลงมายังหน้าผา ก่อนจะตกลงมายังธารน้ำที่อยู่เบื้องล่าง จะมีลักษณะเหมือนเป็นน้ำตกอีกชั้นหนึ่ง และยังพบแอ่งหลุมน้อยใหญ่มากมาย อันเกิดจากการกัดเซาะของน้ำเช่นเดียวกัน มีก้อนหินทั้งขนาดเล็ก และใหญ่ถูกวางซ้อนทับกันอยู่อย่างไม่เป็นระเบียบ บ้างก็ถูกจัดวางขวางทางน้ำเอาไว้ บ้างก็ซ้อนทับกับหินก้อนอื่นๆ อยู่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปรากฏการณ์ที่ธรรมชาติได้สรรสร้างเอาไว้ ให้มนุษย์อย่างเราๆ ได้มีโอกาสมายลโฉมความงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้น จุดท่องเที่ยวตรงนี้ของน้ำตกสร้อยสวรรค์เหมาะที่จะเป็นจุดแวะพักเพื่อแวะชมความงามที่ธรรมชาติได้สร้างเอาไว้ และเป็นจุดที่น่าถ่ายภาพมากที่สุด ด้วยบรรยากาศของต้นไม้สีเขียว ชั้นหิน และสายน้ำที่ถูกจัดฉากเอาไว้อย่างลงตัว

หากมองย้อนกลับไปยังฝั่งของน้ำตกสร้อยสวรรค์ จะพบกับความสวยงามอีกมิติหนึ่งของตัวน้ำตก พร้อมกับเห็นสายน้ำที่ไหลตกลงมากระทบกับแผ่นหิน แล้วสาดกระเซ็นกลายเป็นละอองสีขาวมากมาย อีกทั้งต้นไม้ที่สามารถขึ้นแซมตามซอกของโขดหินได้อย่างลงตัว ให้บรรยากาศเหมือนเป็นน้ำตกที่อยู่ในป่าลึกลับ ที่มนุษย์ไม่มีวันได้พบเห็น แต่กลับกลายเป็นว่าที่ท่องเที่ยวแห่งนี้คือน้ำตกสร้อยสวรรค์ของชาวอุบลนั่นเอง


ขึ้นมาเหนือชั้นโขดหินที่เป็นทางสำหรับน้ำไหล ก็จะพบแหล่งน้ำที่ไหลรวมตัวกันลงมา เพื่อส่งต่อไปยังธารน้ำที่อยู่เบื้องล่าง ที่มาของชื่อน้ำตกสร้อยสวรรค์นั้นมาจาก การที่น้ำตกแห่งนี้มีชั้นของหินทั้งสูงและต่ำปะปนกันไป ซึ่งเป็นที่สำหรับให้น้ำไหลตกลงมายังแผ่นหินด้านล่าง แล้วเกิดเป็นลักษณะเส้นๆ คล้ายสร้อยคอ และเนื่องจากชั้นหินมีหลายชั้นทำให้เกิดเส้นของน้ำที่มีลักษณะคล้ายสร้อยคอหลายชั้น จึงได้ชื่อว่า "น้ำตกสร้อยสวรรค์"


วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

น้ำตกแสงจันทร์ แหล่งท่องเที่ยวอุบล

รีวิว "น้ำตกลงรู" แหล่งท่องเที่ยวอุบล


"น้ำตกแสงจันทร์" แหล่งท่องเที่ยวของชาวอุบล มีอีกชื่อหนึ่งที่ชาวอุบลต่างก็เรียกกันจนติดปากว่า "น้ำตกลงรู" ซึ่งน้ำตกแสงจันทร์แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดจากอิทธิพล และปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ใครที่ได้มาเที่ยวชมยังสถานที่แห่งนี้ต่างก็ต้องติดอกติดใจในความสวยของน้ำตกไปตามๆ กัน จนต้องหาโอกาสกลับมาเที่ยวชมยังสถานที่แห่งนี้อีกรอบให้ได้


ลักษณะทางกายภาพของน้ำตกแสงจันทร์ จะเป็นลักษณะธารน้ำที่ไหลผ่านรูหินทรายลงมายังธารน้ำด้านล่างที่นักท่องเที่ยวใช้เป็นที่เล่นน้ำกันให้สนุกอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งรูที่น้ำไหลผ่านลงมานี้เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติโดยเกิดจากการที่น้ำกัดกร่อนชั้นหิน จนกลายเป็นรูขนาดใหญ่ที่ทำให้น้ำสามารถไหลผ่านลงมาสู่ธารน้ำด้านล่างได้


แล้วน้ำไหลมาจากไหน นักท่องเที่ยวที่ได้มาเที่ยวชมน้ำตกลงรูของชาวอุบลแห่งนี้ อาจเกิดความสงสัยนี้ขึ้นมาได้ จริงๆ แล้วน้ำที่ไหลผ่านรูลงมายังธารน้ำด้านล่าง มาจากน้ำที่อยู่บนชั้นหินด้านบน ซึ่งน้ำที่มาจากชั้นหินด้านบนจะเป็นลักษณะเหมือนน้ำตกชั้นเล็กๆ ที่ไหลต่อๆ กันลงมาแล้วผ่านลงรูลงมายังธารน้ำที่อยู่เบื้องล่าง กลายเป็นน้ำตกให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชม น้ำตกแสงจันทร์ของชาวอุบลได้เห็นกัน


แล้วที่มาของน้ำตกแสงจันทร์ของชาวอุบลละมาจากไหน จริงๆ ชื่อนี้ได้มาจากการที่พระจันทร์ในยามค่ำคืน สาดส่องแสงจันทร์ผ่านรูหินแล้วกระทบกับสายน้ำตก กลายเป็นประกายที่สวยงามนั่นเอง ซึ่งช่วงที่จะสามารถชมน้ำตกไหลลงรูอย่างเดียวนั้นต้องเป็นช่วงหน้าร้อนเท่านั้น แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนน้ำจะเยอะ ทำให้น้ำไหลผ่านหน้าผาพร้อมกับไหลลงรู จะทำให้ไม่สามารถมองเห็นน้ำที่ตกลงรูชัดเจน



วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เสาเฉลียง แหล่งท่องเที่ยวอุบล

รีวิว"เสาเฉลียง" แหล่งท่องเที่ยวอุบล


"เสาเฉลียง" แหล่งท่องเที่ยวเมืองอุบล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นจากการสร้างสรรค์ทางธรรมชาติ ด้วยการกัดเซาะของน้ำ แล้วมีลมเป็นตัวช่วยพัดพาให้เกิดลักษณะเป็นแท่งหินตั้งตรงหลากหลายรูปร่าง ขนาด และความสูง โดยบนยอดสุดของแท่งหินจะมีคล้ายกับแผ่นหินขนาดใหญ่วางทับอยู่ ทำให้มองดูคล้ายดอกเห็ดเรียงรายกันอยู่


แท่งหินเสาเฉลียงจะมีลักษณะเป็นชั้นๆ ซ้อนทับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งเกิดจากการพัดพาของลม เหตุที่ได้ชื่อว่าเสาเฉลียงนั้นเกิดจากการที่ยอดบนสุดของแท่งหิน มีลักษณะเป็นแผ่นหินวางซ้อนเอียงๆ อยู่ไม่ได้ซ้อนทับในลักษณะตรง ซึ่งก็เป็นผลมาจากทิศทางการพัดพาของลมที่ทำให้เกิดลักษณะแผ่นหินเช่นนี้ 


แหล่งท่องเที่ยวเมืองอุบลอย่าง "เสาเฉลียง" นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมในความแปลกได้แล้ว ตัวเสาเฉลียงเองยังสามารถใช้เป็นที่กำบังแดดและฝน ในคราที่ฝนตก หรือแดดร้อนได้อีกด้วย และเมื่อเราลองมายืนภายใต้แผ่นเสาเฉลียงแล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้าผ่านแผ่นหินของเสาเฉลียงที่อยู่ใกล้กัน เราจะเห็นท้องฟ้าในอีกมิติหนึ่งเสมือนว่าเราเป็นมนุษย์ถ้ำที่หลบภัยอยู่ภายในถ้ำ เพื่อรอวันออกมาสู่โลกกว้าง


รอบบริเวณจุดท่องเที่ยวของเสาเฉลียงเมืองอุบล รายล้อมไปด้วยก้อนหินที่ถูกวางซ้อนกัน ประหนึ่งเป็นการเลียนแบบเสาเฉลียงขนาดเล็ก ซึ่งเป็นการวางก้อนหินของนักท่องเที่ยวที่ได้มาแวะชมยังสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองอุบลแห่งนี้ ด้วยความเชื่อที่ว่า "หากใครที่สามารถสร้างเสาเฉลียงได้ขนาดสูงที่สุด และไม่ล้มจะมีความโชคดี" ทำให้หลายคนที่มีโอกาศได้มาเยือนยังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ของเมืองอุบลต่างก็ต้องมาวางก้อนหินซ้อนกันให้ได้ความสูงสูงสุด ก่อนจะออกเดินทางไปเยือนยังสถานที่ท่องเที่ยวถัดไป

วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

โบกท่องเที่ยวอุบล

รีวิว"สามพันโบก" โบกท่องเที่ยวอุบล


"สามพันโบก" เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของชาวอุบล เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่สร้างสรรค์ไว้ได้สวยงามและทรงคุณค่าทางจิตใจมาก โบกทั้งหลายเกิดจากกระแสน้ำของลำน้ำโขงกัดเซาะหินทรายที่อยู่ใต้น้ำ จนเกิดเป็นหลุมเป็นแอ่งหลากหลายขนาดมากมายแผ่เป็นวงกว้าง ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา และจะสามารถมองเห็นโบกมากมายหลายขนาดเหล่านี้ได้ เมื่อถึงช่วงฤดูแล้งหรือช่วงที่แม่น้ำโขงลดระดับลงเท่านั้น


บรรยากาศยามรุ่งสางของ "สามพันโบก" ท่านจะมีโอกาสได้สัมผัสแสงแดดเร็วกว่าปกติ เพราะอยู่บนที่สูง และเป็นช่วงเวลาที่ได้บรรยากาศแบบโรแมนติก เนื่องจากแสงแดดจะออกแน้วโพล้เพล้ หากท่านที่ต้องการมาเที่ยวสามพันโบกแนะนำให้ออกเดินทางแต่เช้ามืดเพื่อให้มาถึงยังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ตอนเช้าตรู่ เพราะอากาศยังไม่ร้อน แดดไม่จัด หรือไม่ก็ออกเดินทางช่วงบ่ายแก่ๆ เพื่อให้มาถึงเย็น เพราะช่วงเวลาที่นอกเหนือจากนี้จะเป็นช่วงเวลาที่แสงแดดแรงมาก ไม่เหมาะแก่การเดินเที่ยวชม


นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมยังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ของชาวอุบลนั้น ต่างก็ให้ความสนใจ และตื่นตาตื่นใจกับช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะเลื่อนขึ้นสู่ท้องฟ้า เพราะโบกท่องเที่ยวของชาวอุบลนั้นจะสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ได้ใกล้ และให้ความรู้สึกเหมือนพระอาทิตย์อยู่ใกล้แค่เอื่อม ซึ่งถ้ามองจากสามพันโบกดวงอาทิตย์จะมีลักษณะดวงกลมโต และมีขนาดใหญ่มาก


สามพันโบกจะมีช่วงเวลาในการเดินเที่ยวชมอยู่ 2 ช่วงเวลาด้วยกันคือช่วงเช้าสุด กับช่วงบ่ายแก่ๆ เพราะช่วงเวลาทั้งสองช่วงนี้แสงแดดจะไม่แรงมาก สามารถเดินเที่ยวชมได้อย่างสบายไม่ร้อน โดยแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้สามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ 2 วิธีด้วยกัน คือ สามารถเดินสำรวจด้วยเท้า และ สามารถเที่ยวชมโบกด้วยเรือรับจ้าง


ด้วยอิทธิพลทางธรรมชาติที่ช่วยสรรสร้างโบกท่องเที่ยวของชาวอุบลแห่งนี้ ให้มีหลากหลายลักษณะ ทั้งแบบที่เป็นหินซ้อนทับกันมากมาย บ้างก็เป็นแอ่งเล็ก แอ่งน้อยและมีน้ำขังอยู่ หรือจะมีลักษณะคล้ายอุโมงค์ บ้างก็เป็นลักษณะคล้ายรูปหัวใจ ล้วนแต่เป็นความแตกต่างในลักษณะแต่ลงตัวด้วยความสวยงาม



วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เทียนพรรษา แหล่งท่องเที่ยวอุบล

รีวิวประเพณีแห่เทียนพรรษา แหล่งท่องเที่ยวอุบล


"113 ปี งานประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี 2557 และเฉลิมฉลอง 222 ปี อุบลราชธานี" มีกำหนดการจัดงานตั้งแต่วันที่ 1 - 16 กรกฎาคม 2557 โดยมีรายละเอียดดังนี้

1 - 14 กรกฎาคม 2557 จัดกิจกรรมประติมากรรมเทียนนานาชาติ ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอุบลราชธานี

9 กรกฎาคม 2557 พิธีเปิดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี ปี 2557 และถนนสายเทียน ถนนสายธรรม ณ ศาลหลักเมืองอุบลราชธานี

10 - 12 กรกฎาคม 2557 ตลาดแลง ย้อนอดีตยามเย็น บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดหลังเก่า

11 กรกฎาคม 2557 ประกวดสาวงามเทียนพรรษา และพาแลง รวมทั้งโชว์ต้นเทียน

11 - 12 กรกฎาคม 2557 แสดงแสงเสียง ประกอบขบวนแห่เทียนภาคกลางคืน หน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม

12 กรกฎาคม 2557 พิธีเปิดขบวนแห่เทียนพรรษา หน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม


ท่องเที่ยวและเที่ยวชมไปกับเกร็ดความรู้ เบื้องหลังความสวยงามของขบวนเทียนพรรษาที่เราๆ ได้เห็นกันนั้น ต่างต้องแลกมากับความประนีตในฝีมือการแกะสลักให้เป็นลวดลายที่สวยงาม และความอดทนของคนทำ นอกจากช่างจะต้องบรรจงกับการแกะสลักเพื่อให้ได้ลวดลายต่างๆ ตามแบบที่ถูกออกแบบไว้แล้ว ยังต้องหล่อเทียนเพื่อใช้ในการขึ้นโครงรูปต่างๆ สำหรับการจัดขบวนเทียนพรรษา


เมื่อตกแต่งทุกส่วนประกอบของเทียนพรรษาเสร็จครบตามแบบแล้ว ช่างก็จะนำส่วนประกอบเหล่านั้นมาจัดวางเป็นขบวนเทียนพรรษาตามแบบที่ออกไว้ แต่เดิมนั้นเมืองอุบลเป็นต้นตำหรับการสร้างและแห่เทียนพรรษา ซึ่งจะเป็นจังหวัดเดียวเท่านั้นที่เปิดโอกาศให้นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาเที่ยวชมเทียนพรรษากัน แต่ในทุกวันนี้บางจังหวัดได้เริ่มสร้างเทียนพรรษากันบ้างแล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวในจังหวัดอุบลเริ่มน้อยลง ชาวอุบลจึงได้คิดนำเทียนหอมมาแปรรูปหล่อเป็นเทียนพรรษาเพื่อเพิ่มสีสัน และเป็นการเรียกให้นักท่องเที่ยวกลับมายังเมืองอุบลเช่นเดิม